เรื่อง : ประชาสัมพันธ์การใช้งานแอปพลิเคชั่นถุงเงินเพื่อรับชำระค่าสินค้า และบริการผ่านสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ |
รายละเอียด : ปัจจุบันมีร้านค้าและผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ รับชำระเงินค่าสินค้าจากผู้ใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐผ่านแอปพลิเคชันถุงเงินกว่าหนึ่งแสนร้านค้า ดังนั้น เพื่อให้การรับชำระค่าสินค้าและบริการผ่านสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐจากแอปพลิเคชันถุงเงิน เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและโปร่งใส จึงได้กำหนดวิธีการรับชำระค่าสินค้าและบริการ ด้วยวิธีการสแกนใบหน้าควบคู่กับการใส่รหัสคู่บัตร (PIN Code) 6 หลัก ตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม 2567 เป็นต้นไป โดยผู้มีสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐที่ไปใช้สิทธิที่ร้านค้าหรือผู้ประกอบการที่รับชำระค่าสินค้าผ่านแอปพลิเคชันถุงเงิน จะต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมกดรหัสคู่บัตร PIN 6 หลัก และให้ร้านค้าหรือผู้ประกอบการสแกนใบหน้าทุกครั้ง ยกเว้น กลุ่มผู้มอบอำนาจให้ดำเนินการแทน เช่น ผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ ผู้สูงอายุที่เดินทางไปยืนยันตัวตนเองไม่ได้ เป็นต้น และกลุ่มผู้ที่สแกนใบหน้าไม่ผ่านตั้งแต่ขั้นตอนยืนยันตัวตน (e-KYC) รหัสคู่บัตร (PIN Code) 6 หลัก ถูกล็อก ต้องทำอย่างไร สำหรับกรณีที่รหัสคู่บัตร (PIN Code) 6 หลัก ถูกล็อก ให้ดำเนินการ ดังนี้ (1) หากผู้ใช้สิทธิยังจำรหัสเดิมได้ สามารถติดต่อขอปลดล็อกได้ด้วยตนเองผ่านระบบโทรศัพท์อัตโนมัติ ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ที่ Welfare Call Center 0 2109 2345 หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ ในวันและเวลาทำการ (จันทร์-ศุกร์) ระหว่างเวลา 08.30 - 17.30 น. (2) กรณีที่ต้องการเปลี่ยนรหัสคู่บัตร (PIN Code) 6 หลัก สามารถดำเนินการด้วยตนเองผ่านตู้ ATM บมจ.ธนาคารกรุงไทย (เครื่อง ATM สีเทาที่มีปุ่ม “ทำรายการด้วยบัตรประจำตัวประชาชน”) (3) กรณีจำรหัสคู่บัตร (PIN Code) 6 หลัก ไม่ได้ ให้ติดต่อที่สาขาของ บมจ. ธนาคารกรุงไทย เพื่อทำการยืนยันตัวตนใหม่พร้อมกำหนดรหัสคู่บัตร (PIN Code) 6 หลัก รายละเอียดปรากฎตามไฟล์ที่แนบมาพร้อมนี้ |
ดาวน์โหลดไฟล์ :
1.สื่อประชาสัมพันธ์ (ไฟล์ jpg) ขนาดไฟล์ 135.53 KB
2.หนังสือมอบอำนาจสำหรับผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้สูงอายุ ที่ไม่สามารถเดินทางมายืนยันตัวตนได้ด้วยตนเอง (ไฟล์ pdf) ขนาดไฟล์ 247.88 KB
|
ฝ่าย : สำนักปลัด |
เมื่อวันที่ : 13 พฤษภาคม 2567 |